อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท เปิดตัว ‘ศาลา ละคร’ โรงละครแห่งรสชาติ และนาฏกรรมไทยร่วมสมัยแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท เปิดตัว ศาลา ละคร (Sala Lakorn) ห้องอาหารกึ่งโรงละครแห่งใหม่ล่าสุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มอบอรรถรสทางรสชาติ และการแสดงนาฎกรรมไทยชุดพิเศษอันวิจิตรตระการตา รังสรรค์โดย ครูนาย - มานพ มีจำรัส ศิลปินศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง อันทรงเกียรติ จากกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อมอบประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟให้กับทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้เพลิดเพลินไปพร้อมกับมื้อบุฟเฟต์ริมแม่น้ำเป็นประจำทุกคืน  พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 18:00 น. - 22:00 น.

 หัวใจหลักของการแสดงสุดตระการตาที่สามารถชมได้เฉพาะที่ ศาลา ละคร คือการแสดง สุวรรณสยามนิรันดร์กาล (The Eternal Siam) ผลงานชิ้นเอกที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ และประสบการณ์ของ ครูนาย - มานพ มีจำรัส ศิลปินระดับบรมครู ผู้ได้รับรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปะการแสดง โดยผลงานชิ้นเอกนี้เป็นการผสมผสานนาฏกรรมไทยร่วมสมัย และดนตรีประกอบอันทรงพลัง เพื่อพาผู้ชมเดินทางผ่านความงดงามและจิตวิญญาณอันเป็นนิรันดร์ของสยามประเทศ ตั้งแต่อดีตกาลอันรุ่งเรืองสู่ยุคปัจจุบันที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ผ่านเนื้อหาที่แบ่งออกเป็น 5 องก์ ที่มีแรงบันดาลใจมาจากชื่อ ‘อนันตรา’ ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษที่หมายถึง ‘สายธารแห่งไมตรีอันไม่สิ้นสุด’ การแสดงชุดพิเศษนี้จึงเป็นดั่งพันธสัญญาในการมอบประสบการณ์แห่งความรัก ความสุข และความงดงามอันประณีตอย่างไม่รู้จบ โดยแต่ละองก์เป็นการเฉลิมฉลองคุณค่าแห่งสายน้ำ แผ่นดิน และวัฒนธรรมอันเป็นนิยามของราชอาณาจักร ทุกท่วงท่าการร่ายรำ ทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ทุกท่วงทำนองของเสียงเพลงบรรเลง ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความตราตรึง เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ และทำให้ผู้ชมดื่มด่ำไปกับการแสดงในทุกวินาที

บทโหมโรง: ยลโฉมบุปผามาลีราชินี (Behold The Flower Queen): ราชินีแห่งดอกไม้ต้อนรับผู้ชมเข้าสู่ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ปลุกทุกประสาทสัมผัสสำหรับการเริ่มต้นค่ำคืนอันมหัศจรรย์

องก์ที่ 1: เทวีแห่งสายธารา (The River Goddess) นำเสนอเรื่องราวอันศักดิ์สิทธิ์ของ ‘แม่คงคา’ เทวีแห่งสายน้ำ ผู้เป็นศูนย์รวมและหลอมรวมชาติไทยให้เป็นหนึ่งเดียว  การแสดงชุดนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานศิลปะการแสดงข้ามแขนงอย่างลงตัว ระหว่างการ ขับร้องอุปรากร (Opera) อันทรงพลัง เข้ากับการร่ายรำร่วมสมัย ที่มีความพริ้วไหวอ่อนช้อยราวกับกระแสน้ำที่ไหลริน พร้อมด้วย เครื่องแต่งกายอันวิจิตรตระการตา ที่สะท้อนความงดงามและอุดมสมบูรณ์ของธารา นำพาผู้ชมเข้าสู่อ้อมกอดแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งกับวัฒนธรรมและประเพณีไทยได้อย่างดื่มด่ำ

องก์ที่ 2: มหัศจรรย์หนังใหญ่และร่างเงาแห่งไอยรา (The Marvel of Nang Yai and Echoes of The Elephant) พบกับการแสดงมหรสพโบราณของไทยที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อสดุดีมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า องก์นี้จะนำเสนอ "หนังใหญ่" งานหัตถศิลป์สร้างสรรค์ใหม่ที่ปรากฏสู่สายตาผู้ชมด้วยความประณีต ผสมผสานท่วงท่าการแสดงอันสง่างามและดนตรีที่สื่อถึงความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชมจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของ "ร่างเงาแห่งไอยรา" ที่จะนำพาทุกท่านย้อนกลับไปสู่ห้วงเวลาแห่งอดีตกาล เพื่อร่วมเป็นประจักษ์พยานในการ คล้องช้าง ซึ่งเป็นฉากสำคัญและทรงคุณค่าในประวัติศาสตร์ไทย

องก์ที่ 3: สืบสานประเพณี (Flowing Traditions) ปลุกชีวิตชีวาแห่งจิตวิญญาณอันสดใสของประเทศไทย ด้วยการนำผู้ชมท่องไปใน วัฒนธรรมและประเพณีอันหลากหลายของทั้งสี่ภูมิภาค

การแสดงนี้เป็นดั่งสายธารแห่งความผูกพันที่หล่อเลี้ยงและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของแผ่นดินเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่ไหลผ่าน ความพิเศษขององก์นี้เริ่มต้นด้วย เพลงอีแซวที่ได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ของคุณสมหญิง ศรีประจันต์ ทายาทแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้เปี่ยมด้วยความสามารถด้านเพลงพื้นบ้าน โดยการแสดงทั้งหมดจะมอบความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาผ่าน เสียงดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สื่อถึงมรดกทางวัฒนธรรม และเปี่ยมด้วยสีสันของสยามประเทศอย่างแท้จริง

องก์ที่ 4: สายธาราแห่งราชันย์ (The Royal River) คือการแสดงอันยิ่งใหญ่เพื่อ เฉลิมฉลองความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างชาวไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ และสายน้ำ

องก์นี้จะนำเสนอการ จำลองความยิ่งใหญ่ตระการตาของขบวนพยุหยาตราชลมารคในรูปแบบสมัยใหม่ โดยมีการจำลองความงดงามของ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างามและมรดกทางประวัติศาสตร์  การแสดงทั้งหมดจะประกอบด้วย ดนตรีอันทรงพลังและยิ่งใหญ่ ที่ร้อยเรียงเรื่องราวและตำนานจากอดีตราชธานีอยุธยา สู่ความรุ่งเรืองของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ถือเป็นบทสดุดีแห่งประวัติศาสตร์และราชประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ริมสองฝั่งน้ำ

องก์ที่ 5: ปัจฉิมบทอันเรืองรอง (A Golden Finale) คือบทสรุปอันงดงามและเปี่ยมด้วยพลัง เป็นการ เฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวย และสะท้อนอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ของประเทศไทย

องก์นี้ตอกย้ำความสมบูรณ์แบบของโชว์ด้วยการหวนคืนมาอีกครั้งของเทวีแห่งสายน้ำ ผู้เป็นผู้นำการเดินทางจากอดีตสู่ปัจจุบัน เครื่องแต่งกายสีทองอร่ามที่ต้องแสงไฟจะส่องประกายเจิดจรัส ให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำไปกับพลังอันเรืองรองของประวัติศาสตร์ และรับรู้ถึง คำมั่นสัญญาแห่งมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นนิรันดร์บนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิ

นอกจากจะเพลิดเพลินกับการแสดงในบรรยากาศอันผ่อนคลายริมแม่น้ำแล้ว แขกผู้มาเยือน ศาลา ละคร ยังได้อิ่มอร่อยไปกับ ดินเนอร์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ที่ผสมผสานมรดกทางอาหารไทยกับเมนูเลิศรสจากนานาชาติ อาทิ สเตชั่นบาร์บีคิวซีฟู้ด ที่เสิร์ฟวัตถุดิบชั้นเลิศ อาทิ กุ้งแม่น้ำ หอยเชลล์ และปลาหมึก ย่างสดใหม่ พร้อมซอสรสเด็ดนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบสดใหม่จากท้องทะเลให้เลือกอีกมากมาย เช่น ปูม้า กั้งกระดาน รวมถึงหอยนางรมฟิน เดอ แคลร์ เมนูอาหารไทย แกงเขียวหวาน ข้าวผัดกุ้ง ปลากะพงผัดเปรี้ยวหวาน เสริมทัพด้วยอาหารปรุงสดใหม่อย่างส้มตำ ยำส้มโอ ไข่เจียวปูเนื้อแน่นเสิร์ฟพร้อมซอสศรีราชามะพร้าว รวมถึงต้มยำกุ้ง ข้าวซอย ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี สเตชั่นไชน่าทาวน์ ที่มีเมนูยอดนิยมอย่างข้าวมันไก่ไหหลำ ข้าวหมูกรอบและหมูแดงพร้อมเครื่องเคียงแบบดั้งเดิม อาหารญี่ปุ่น อาหารอินเดีย เวียดนาม ติ่มซำสเตชั่น สลัดบาร์ โคลด์คัทชีส พาสต้าสเตชั่น และสเตชั่นของหวาน รวมขนมไทยคลาสสิก อาทิ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ ฯลฯ และของหวานนานาชาติเช่น เค้กหลากรส เครปกล้วย ไปจนถึงชูโรสสูตรเด็ด

ศาลาละคร (Sala Lakorn) จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์ชั้นนำแห่งใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯ พร้อมมอบประสบการณ์ค่ำคืนแห่งการดื่มด่ำทางวัฒนธรรมด้านอาหารและความบันเทิงระดับโลก รวมถึงบริการงานจัดเลี้ยงส่วนตัว พร้อมเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18:00-22:00 น. ณ อนันตรา อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท

ราคาแพ็กเกจ 2,900 บาทสุทธิ รวมบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ และเครื่องดื่มซอฟต์ดริ๊งค์

อนันตรา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ (Anantara Hotels & Resort)

อนันตรา เป็นแบรนด์โรงแรมหรู ที่เชื่อมนักเดินทางรุ่นใหม่ เข้ากับสถานที่ ผู้คน และเรื่องราว ผ่านประสบการณ์ของแต่ละบุคคลด้วยการบริการจากใจ ณ หลากหลายจุดหมายสำคัญทั่วโลก โรงแรมและรีสอร์ทในเครืออนันตราทุกแห่งจึงเป็นประตูสู่การเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแบบของตน ไม่ว่าจะเป็นในเมืองอันทันสมัย  ไปจนถึงกลางทะเลทราย หรือเกาะน้อยใหญ่ อนันตรา พร้อมพานักเดินทางไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของท้องถิ่นที่ยังคงซึ่งความหรูหราด้วยการบริการอันเป็นเลิศ ปัจจุบันเครืออนันตรามีโรงแรมและรีสอร์ทที่สวยงามกว่า 50 แห่งทั่วเอเชีย ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และมหาสมุทรอินเดีย

อนันตราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงแรม ไมเนอร์ โฮเทลส์ และเป็นสมาชิกของโปรแกรมสะสมคะแนน Minor DISCOVERY ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ GHA DISCOVERY

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anantara.com และติดตามได้ทาง Facebook, Instagram, TikTok, X และ YouTube